วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

การอ่านทำนองเสนาะ

การอ่านทำนองเสนาะ หมายถึง การอ่านเป็นทำนองเหมือนเสียงดนตรี มีการเอื้อนเสียงเป็นสัมผัสตามจังหวะ ลีลา และท่วงทำนองที่แตกต่างไปตามลักษณะบังคับของบทประพันธ์ ผู้อ่านต้องใส่เทคนิคใน
การทอดเสียงเอื้อนเชื่อมโยง มีลูกเล่น ลูกเก็บอย่างเป็นศิลปะ
หลักการอ่านทำนองเสนาะ
1. อ่านให้ถูกวิธี
1.1 ไม่อ่านผิดสระ ผิดพยัญชนะ หรือผิดวรรณยุกต์
1.2 การอ่านออกเสียงพยัญชนะ จ/ฉ/ช/ถ/ท/ช/ศ/ษ/ส/ร ให้ชัดเจน
1.3 ควรออกเสียง ร ล ว และอ่านออกเสียง ร ล ให้ชัดเจน
2. อ่านให้ถูกจังหวะ
2.1 ควรรู้จักฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ที่จะอ่าน
2.2 การอ่านทำนองเสนาะจะเร่งจังหวะเร็วขึ้นเมื่ออ่านบทที่เกี่ยวกับการโกรธและลดจังหวะช้าลง
เมื่ออ่านบทที่เกี่ยวกับความรักหรือความเศร้า ความเจ็บปวด
3. อ่านให้มีทำนอง
3.1 ควรรู้จักลีลาที่เป็นไปตามจังหวะหรือทำนองการออกเสียงของคำประพันธ์แต่ละประเภท
3.2 ควรอ่านทำนองคำประพันธ์ให้พอเหมาะกับเสียงตน
4. อ่านให้มีเสียงดัง
4.1 ควรอ่านทำนองเสนาะให้มีเสียงดังพอที่จะได้ยินทั่วกัน
4.2 ควรรู้จักอ่านให้ดังฟังให้ชัดเจน ให้เสียงสัมผัส จังหวะและทำนองที่อ่านกระทบหูและใจ
5. อ่านให้มีอารมณ์
5.1 ควรเข้าให้ถึงรสและตีความให้ได้ว่าเป็นรสรัก โศก ตื่นเต้น คึกคัก หรือเกลียดชัง แล้วอ่านให้น้ำเสียง
สอดคล้องกับรสหรืออารมณ์นั้นๆ
5.2 ควรอ่านบทวรรณคดีให้มีสำเนียง อารมณ์ หรือความรู้สึกที่แท้จริงของกวี ย่อมทำให้ผู้อ่านและผู้ฟัง
เข้าใจเนื้อเรื่องและสนุกไปด้วย
วิธีการอ่านกลอน
1. ตามปกติกลอนแปด จะแบ่งจังหวะเป็ฯ สาม/สอง/สาม เสมอกันทุกวรรค โดยมีข้อเน้น คือจะต้องอ่าน
ให้ได้สัมผัส จะต้องอ่านเน้นสัมผัสนอก อันเป็นสัมผัสบังคับของคำประพันธ์นี้
2. การใส่ทำนอง ปัจจุบันทำนองกลอนที่นิยมอ่านกันมาก คือทำนองนักเรียน ที่นักเรียนฝึกอ่านกันใน
โรงเรียนทั่วไป โดยในบทหนึ่งอ่านเป็นทำนองเสียงสูงในสองวรรคแรก และอ่านเป็นทำนองเสียงต่ำ
ในสองวรรหลัง
3. การใส่อารมณ์และความรู้สึกขณะอ่าน ให้เหมาะสมกับบรรยากาศของเรื่องที่กวีวางไว้ต้องการแสดง
ความรัก ความคึกคัก การคร่ำครวญ ซึ่งอาจจะอ่านเอื้อนเสียงกระแทกเสียง หรือทอดเสียงให้เหมาะสมเป็น
ตอน ๆ ไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น